รีวิวหนังSOUL SNATCHERบัณฑิตหน้าใส กับ นายจิ้งจอก

มาดูรีวิวหนังสุดมันกับผมอีกแล้วนะคับ วันนี้ผมจะรีวิวหนังเรื่อง SOUL SNATCHERบัณฑิตหน้าใส กับ นายจิ้งจอก นับเป็นปีทองของหนังหรือซีรีส์แนววายกันเลยทีเดียวสำหรับปีนี้ ที่ไม่ว่าจะผลิตกันออกมาแนวไหนหรือสัญชาติไหนก็ได้รับการตอบรับกันอย่างล้นหลาม ไม้เว้นแม้แต่ทางฝั่งของจีนที่ล่าสุดแม้ไม่ได้ตั้งใจหรือสร้างให้เป็นหนังวาย แต่ก็อดไม่ได้ที่จะแอบจิ้น อย่างในหนังเรื่อง “Soul Snatcher” บัณฑิตหน้าใสกับนายจิ้งจอก ที่กำลังเข้าฉายอยู่ในตอนนี้ ที่แค่ชื่อเรื่องก็ชวนให้คิดไปไกลแล้ว

Soul Snatcher เป็นหนังที่สร้างมาจากนิยายแนวแฟนตาซีขายดีในจีน โดยเป็นเรื่องราวของปิศาจสุนัขจิ้งจอก “ป๋ายฉีซาน” (รับบทโดย หลี่เซียน)​ ที่ต้องแปลงร่างเป็นมนุษย์เพื่อตามหาผลึกวิเศษ​ที่มีอยู่ในตัวมนุษย์​ผู้บริสุทธิ์​ ซึ่งจะทำให้ความเป็นปีศาจสุนัขจิ้งจอกของเขาได้รับการยกระดับขั้นสูงสุดกลายเป็นเซียนจิ้งจอกผู้มีชีวิตอมตะตลอดกาล

Soul Snatcher บัณฑิตหน้าใสกับนายจิ้งจอก เป็นภาพยนตร์แฟนตาซีจากจีนที่จะเล่าเรื่องของ ‘ไป๋ ฉีซาน’ จิ้งจอกหนุ่มสุดทะเล้น ได้ปลอมตัวเป็นมนุษย์เพื่อตามหาไข่มุกวิญญาณเพื่อจะก้าวไปสู่ขั้นสูงสุดแล้วกลายเป็นอมตะ เป็นเซียนจิ้งจอก เขาได้พบกับ ‘หวั่งซี่จิน’ บัณฑิตหนุ่มใสซื่อในเมืองมนุษย์ พวกเขาได้กลายเป็นเพื่อนสนิทที่มาร่วมผจญภัยไปด้วยกัน

โดยหวั่งซี่จินนั้นต้องการตามหาพี่ชายที่เขารู้จักที่หายไปเพื่อตามหาความฝันในการสอบเป็นบัณฑิตให้สำเร็จ ขณะที่เจ้าจิ้งจอกนั้นก็ต้องหลอกล่อเอาไข่มุกวิญญาณจากหวั่งซี่จินเพื่อให้เขาได้เป็นเซียน มันจึงเกิดเป็นเรื่องราวสุดชวนหัวกับความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับปีศาจที่ไม่มีใครคาดเดาได้ว่าจะจบลงอย่างไร

หนังเรื่องนี้ก็เป็นอีกหนึ่งหนังจีนที่ส่งมาลงโรงฉายในตลาดบ้านเรา และ ที่สำคัญคือ เริ่มมาเน้นในตลาดโบรแมนซ์กันบ้างแล้ว ซึ่งอันที่จริง แม้ว่าจะไม่ได้เป็นหนังใหญ่สำหรับในบ้านเรา แต่การที่สองนักแสดงนำของหนังเรื่องนี้อย่าง Li Xian (หลี่ เซี่ยน) และ Chen Li-Nong (เฉินลี่หนง) ถือว่าเป็นนักแสดงจีนที่มีแฟนคลับในไทยอยู่เยอะพอสมควรเลยนะครับ เห็นได้ชัดจากตอนที่ได้มีโอกาสไปชมรอบสื่อของภาพยนตร์เรื่องนี้กับทางค่ายไฟว์สตาร์ ต้องบอกว่า มีแฟนคลับของทั้ง 2 หนุ่มมาร่วมชมกันอย่างคับคั่งเลยทีเดียว ดูหนังใหม่

รีวิวหนังSOUL SNATCHERบัณฑิตหน้าใส กับ นายจิ้งจอก เนื้อเรื่อง/เรื่องย่อ

ในขณะที่ป๋ายฉีซานแปลงร่างมาใช้ชีวิตในโลกมนุษย์​ เขาได้พบเจอกับ “หวังซี่จิน” (รับบทโดย เฉินหลี่หนง)​ บัณฑิต​หนุ่มผู้มีจิตใจงดงามที่กำลังตามล่าความฝันด้วยการเดินทางไปสอบจอหงวน ที่สำคัญผลึกวิเศษที่เขาตามหานั้นอยู่ในตัวของหวังซี่จินนี่เอง การพบกันระหว่างปีศาจสุนัขจิ้งจอกป๋ายฉีซานกับบัณฑิต​หนุ่มหวังซี่จินนี้ถือเป็นจุดเด่นของหนัง

การพบกันของพวกเขาแทนที่จะเป็นการต่อสู้​เพื่อยิงชิงบางสิ่งบางอย่าง แต่กลับกลายเป็นการร่วมเดินทางเคียงบ่าเคียงไหล่ไปด้วยกันแบบมิตรภาพ​ที่เต็มไปด้วยเรื่องราวหลากหลายรสชาติ ทั้งสุข ทุกข์​ เศร้า เสียงหัวเราะ และ คราบน้ำตา ในระหว่างการเดินทางตามหาความฝันของทั้งคู่ซึ่งเต็มไปด้วยปัญหาอุปสรรคมากมาย จนกลายเป็นความผูกพัน​ที่ยากจะลืมเลือน

หนังเรื่องนี้เป็นเรื่องราวของปีศาจจิ้งจอกสุดกระจอกนามว่า ไป๋ฉีซาน หรือเสี่ยวไป๋ ที่ได้รับภารกิจไปยังโลกมนุษย์เพื่อตามหาดวงแก้วขาวที่อยู่ในตัวมนุษย์ที่บริสุทธิ์ เพื่อที่จะได้อัปเกรดเป็นจิ้งจอกเก้าหาง และ กลายเป็นเซียนที่มีชีวิตอมตะ ซึ่งเขาต้องปลอมเป็นมนุษย์ และได้ไปพบกับ หวังซี่จิน บัณฑิตหนุ่มหน้ามนผู้ยากไร้ที่อยากเดินทางไปสอบจอหงวนเพื่อจะได้เป็นขุนนาง  ดูหนังฟรี

โดยทั้งคู่จับพลัดจับผลูต้องออกเดินทางผจญภัยเพื่อไปสอบจอหงวนด้วยกัน และ ต้องเผชิญกับปีศาจมากมายที่คอยเป็นอุปสรรคขัดขวาง และ ตัวของเสี่ยวไป๋เอง ก็ต้องหาจังหวะช่วงชิงเอาดวงแก้วขาวจากตัวของหวังซี่จินอีกด้วย

แน่นอนว่า หลายคนที่เห็นโปสเตอร์มีรูปคู่ ชาย-ชาย แบบนี้ ในยุคที่กระแสวายชวนจิ้นกำลังมาแรง เราย่อมจะคิดถึงความโบรแมนซ์ (Bromance) อย่างแน่นอนซึ่งทั้งคู่นั้นชวนให้จิ้นแบบโบรแมนซ์จริง ๆ นั่นแหละครับ ซึ่งอันนี้ก็ต้องยกความดีความชอบให้ทั้งคู่ในฐานะที่เป็นคู่ดูโอที่สามารถเล่นกันได้อย่างเข้าแข้งเข้าขา เคมีเข้ากันดีมาก ๆ เสี่ยวไป๋ก็เป็นปีศาจจิ้งจอกจำแลงที่มีความแบดบอย และ ไม่น่าไว้วางใจแฝงอยู่ ส่วนหวังซี่จินก็เป็นหนุ่มเปิ่นซื่อ ๆ แต่จริงใจ

แต่ก็ต้องบอกว่า ตัวหนังเรื่องนี้ไม่ได้ถึงกับชวนให้คิดมากอะไรเหมือนอย่างที่หน้าหนังปูไว้ให้ขนาดนั้นนะครับ คือถามว่ามันชวนจิ้นไหม ก็ชวนจิ้นแหละครับ นักแสดงทั้ง 2 คนก็มีความ “พระเอก-นายเอก” อยู่นิด ๆ แต่ก็ไม่ได้ถึงกับมีฉากเซอร์วิส หรือมีอะไรที่ล้ำเส้นความเป็นโบรแมนซ์ไปมากกว่านั้น ตัวหนังค่อนข้างเน้นไปที่มิตรภาพความเป็นเพื่อนคู่หูที่รู้ใจ ไปไหนไปกัน และ ยอมเสียสละให้กันได้อย่างจริงใจเสียมากกว่า ดูหนังใหม่

ความรู้สึกหลังจากดูหนังSOUL SNATCHERบัณฑิตหน้าใส กับ นายจิ้งจอก

อีกจุดที่ต้องชื่นชมหนังเรื่องนี้เป็นอย่างมากก็คืองานด้านคอมพิวเตอร์กราฟิกครับ สิ่งนี้น่าจะสร้างความประทับใจให้กับผู้ชมที่ชมหนังเรื่องนี้ได้ตั้งแต่วินาทีแรกเลย เพราะงานซีจีเนียนกริ๊บมาก ๆ ครับ โดยเฉพาะเจ้าเสี่ยวไป๋ในร่างสุนัขจิ้งจอกซีจี ที่ต้องบอกว่าทีมงานทำการบ้านมาละเอียดมาก ทำให้นอกจากจะเหมือนจริงแทบทุกกระเบียดนิ้วแล้ว ยังมีความน่ารักน่าชังอีกต่างหาก รวมถึงงานซีจีในจุดอื่น ๆ อีกมากมายหลายร้อยช็อตตลอดเรื่อง ที่ทำได้อย่างปราณีตสวยงามในระดับที่ฮอลลีวูดอาจมีร้อน ๆ หนาว ๆ กันบ้างแหละ

ว่ากันเรื่องพล็อต จริง ๆ ผมออกจะชอบพล็อตของหนังเรื่องนี้นะครับ เป็นหนังที่มีครบเครื่องทั้งการผจญภัย มิตรภาพ การพิสูจน์ตัวตน การเสียสละ และ มุกฮา ๆ สไตล์จีนที่หลายมุกก็ฮาใช้ได้เลย รวมถึงการที่ทั้งคู่ต้องออกไปผจญภัยกับปีศาจ และ อุปสรรคต่าง ๆ มากมายที่จริง ๆ ก็ดูได้เพลิน ๆ เลย รวมถึงการวางพล็อตให้มีความพลิกล็อกหักมุมไว้หลายตลบมาก ๆ ซะจนเดาเรื่องไม่ถูก

แต่สิ่งที่เป็นจุดสังเกตใหญ่ที่สุดของหนังเรื่องนี้ก็คือ ตัวหนังที่มีน้ำ หรือฉาก และเ รื่องราวที่ไม่จำเป็นอยู่เยอะมาก แล้วด้วยความที่ตัวหนังมีความยาวตั้ง 2 ชั่วโมง 5 นาที ถ้าตัดน้ำออก แล้วเหลือแต่เนื้อเน้น ๆ หนังเรื่องนี้อาจเหลือราว ๆ ชั่วโมงครึ่งก็ได้ แม้ว่าพล็อตจะสนุกดี แต่การแวะเล่าเรื่องอื่น ๆ ที่ไม่จำเป็น แถมยังเล่าเรื่องที่จำเป็นบางฉากด้วยจังหวะที่ไม่กระชับ ทำให้จังหวะตัวหนังในสององก์แรกนั้นอืดสุด ๆ กว่าที่หนังจะกระชับสนุกขึ้น ก็ต้องรอไปจนถึงช่วงปลาย ๆ เรื่องที่มีฉากบู๊ และ ดราม่าน้ำตาซึมตอนท้าย ๆ เรื่องแล้ว ดูหนังฟรี

อีกจุดที่หนังค่อนข้างละเลยไปพอสมควรคือการปูเรื่องครับ ตัวหนังมีการออกแบบเรื่องราวของตำนานไว้ละเอียดมาก (ซึ่งเข้าใจว่า เวอร์ชันนิยายคงเขียนไว้ค่อนข้างละเอียด) พอมาเป็นหนัง แอบมีจังหวะที่ตามหนังเกือบไม่ทันเหมือนกันว่ามันเกิดอะไรขึ้นบ้าง ถ้าตัวหนังมีการปูเรื่อง อธิบายจุดต่าง ๆ ให้คนดูพอรู้ว่า ทำไมเหล่าปีศาจจิ้งจอกต้องออกมาชุมนุมกัน ดวงแก้วขาวสำคัญต่อปีศาจจิ้งจอกอย่างไร จิ้งจอกเก้าหางกลายเป็นเซียนได้อย่างไร ถ้าเป็นเซียนแล้วจะเกิดอะไรขึ้น หรือการค่อย ๆ เผยปมความไม่น่าไว้วางใจของตัวละครออกมาทีละนิด ฯลฯ น่าจะทำให้สามารถตามหนังได้อินยิ่งขึ้น

จริง ๆ ถ้าไม่นับว่าหนังเรื่องนี้มีซีนโบรแมนซ์ให้ชวนจิ้นบ้าง (ถึงไม่เยอะ แต่ด้วยเคมีอะไรบางอย่างก็ชวนให้ฟินได้บ้างแหละน่า) หนังเรื่องนี้ก็ถือว่าไม่เสียหลายอยู่นะครับ เป็นหนังผจญภัยความยาว 2 ชั่วโมงที่อาจจะเดินเครื่องช้าไปสักนิด และ น้ำเยอะไปสักหน่อย แต่ก็ถือว่าเป็นหนังจีนที่ดูสนุกเพลิดเพลิน ซีจี และ งานด้านภาพตระการตา แถมมีมุกฮา ๆ ให้ได้ดู (เสริมความฮาด้วยทีมพากษ์พันธมิตรเข้าไปอีก) เรียกว่าเป็นหนังต้อนรับเทศกาลปีใหม่ที่น่าจะเพลิดเพลินสำหรับคอหนังจีน และ คอหนังจิ้นได้อย่างแน่นอนครับ

ขณะเดียวกันบรรดาฉากบันเทิงต่างๆ ที่มีน้อยนิดนั้นก็เต็มไปด้วยมุขตลกสุดจืดชืด มุขตลกไม่คม จังหวะเล่าเรื่องไม่เนียน ไม่โบ๊ะบ๊ะ ทำให้แม้แต่ทีมพากย์พันธมิตรก็ช่วยแบกเรื่องไว้ไม่ได้ อย่างมากสุดก็ทำได้แค่ให้เรายิ้มบางๆ เห็นจะมีอารมณ์ซึ้งเพียงอย่างเดียวเท่านั้นที่เรื่องนี้ทำได้โอเค แต่แย่หน่อยที่ปัญหาเรื่องเล่ายืดยาว และ ไม่คมอย่างว่าไปนั้น มันทำให้ความซึ้งนี้ไปไม่สุดทาง ดูรีวิวหนังสุดมันได้ที่นี่

เคมีของนักแสดงนี่น่ารักดีครับ เป็นมิตรภาพที่ชวนจิ้น แต่ก็ไม่ได้หนักมากมาย เพราะว่าหนังเรื่องนี้จะเน้นเป็นมิตรภาพในความเป็นเพื่อนรักของเพื่อนชายมากกว่า และ นักแสดงทั้งสองท่านอย่าง หลี่เซี่ยน และ เฉินหลี่หนง ก็นำเสนอความสัมพันธ์นี้ออกมาได้น่ารักดี น่าเสียดายที่เนื้อเรื่องทำได้ไม่ดีอย่างที่กล่าวไป ไม่งั้นเราคงอิ่มเอมกับความสัมพันธ์ของทั้งคู่ และรู้สึกกับมันได้เต็มที่กว่านี้

โปรดัคชั่นโดยภาพรวมสำหรับเรื่องนี้นี่ก็ต้องบอกว่าเป็นไปตามคุณภาพหนังใหญ่จากจีนที่ได้ฉายในบ้านเราแหละครับ มันไม่ธรรมดาอยู่แล้ว หนังเต็มไปด้วยฉากงานสร้างแสนอลังการ แม้จำนวนฉากจะไม่ได้มีมากอย่างที่กล่าวไป แต่ทุกฉากยังคงจัดเต็มทุกรายละเอียด มีทั้งตอบโจทย์ฟังก์ชันของการเล่าเรื่อง และ ความสวยงาม

โดยเฉพาะฉากในเมืองนางโลมยามค่ำคืนนี่ยิ่งสวย อาหารตาอย่างดี งานเสื้อผ้าหน้าผมก็ล้ำเลิศเช่นกัน และ สิ่งที่ชอบรองลงมาก็คืองานวิชวลเอฟเฟ็ค โดยเฉพาะกับการสร้างเจ้าพวกจิ้งจอก หรือปีศาจต่างๆ ขึ้นมานั้น มันดูดีมาก แม้ไม่ถึงขั้นสมจริง แต่ก็เป็นงานสร้างที่ดูใส่ใจทุกขั้นตอน ไล่ตั้งแต่การออกแบบมันขึ้นมา การทำให้มันดูใกล้เคียงความสมจริงที่สุด รวมไปถึงการอนิเมทด้วย บอกได้คำเดียวว่านี่เป็นหนังที่ใครเป็นเด็กเรียนวิชวลเอฟเฟ็คหรือแอนิเมชั่นควรจะเรียนรู้ไว้ เพราะส่วนตัวผมชอบงานภาพของเรื่องนี้มาก มันครบเครื่องมาก