Last modified กันยายน 3rd, 2022 at 09:07 pm
รีวิวหนัง จอมเวทย์มหากาฬ ในมัลติเวิร์ส มหาภัย
สวัสดีครับ ท่านผู้ชมที่ติดตามผม และ ที่น่ารักทุกท่าน กลับมาพบกันอีกเช่นเคย กับผมและการรีวิวหนังสุดมัน วันนี้ผมจะมารีวิวหนังเรื่อง Doctor Strange in the Multiverse of Madness จอมเวทย์มหากาฬ ในมัลติเวิร์สมหาภัย หลังจากที่ Marvel Studios ดูหนังออนไลน์ ได้พาเราไปท่องเที่ยวตามแนวคิดพหุจักรวาล (Multiverse) หรือที่เรียกว่ามัลติเวิร์ส
ซึ่งเป็นคอนเซ็ปต์หลักของ MCU (Marvel Cinematic Universe) เฟสที่ 4 ในตอนนี้ สถานการณ์เริ่มทวีความวุ่นวายโกลาหลและรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยเหตุนี้เอง หมอแปลกจึงต้องขอกลับมาร่ายมนต์เพื่อแก้ไขความผิดพลาดเหล่านั้นใน ‘Doctor Strange in the Multiverse of Madness’ หรือ ‘จอมเวทย์มหากาฬ ในมัลติเวิร์สมหาภัย’
อย่างที่ทราบว่า หมอแปลกที่กลายมาเป็นจอมเวทใน ‘Doctor Strange’ (2016) และไปโผล่ในฐานะสมาชิกอเวนเจอร์ส (Avengers) ในภาพยนตร์หลายเรื่อง มาถึงตอนนี้ หนังเดี่ยวภาคที่ 2 ของหมอแปลกก็มาถึงเสียที พร้อม ๆ กับการจับธีมมัลติเวิร์สมาเล่ากันแบบเต็ม ๆ โดยไม่ต้องเล่าปูพื้นอะไรให้วุ่นวาย บวกกับธีมหนังสยองขวัญที่มาพร้อมกับเรื่องราวของตัวแปรของหมอแปลก และตัวละครอื่น ๆ ที่มาจากมิติเดียวกัน และจากต่างมิติ
Doctor Strange in the Multiverse of Madness เต็มเรื่อง ทุกวันนี้ ดร.สตีเฟน สเตรนจ์ ดูหนังฟรี (Benedict Cumberbatch/เบเนดิค คัมเบอร์แบทช์ จากหนังเรื่อง ‘The Imitation Game’, ‘1917’ และ ‘The Mauritanian’) ตื่นขึ้นมาเพราะความฝันถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเขาในจักรวาลอื่น ในฝันนั้นเขากำลังยุ่งเหยิงอยู่กับการช่วยเหลือเด็กสาวคนหนึ่งที่กำลังถูกจอมมารตามล่า เพราะหวังจะได้สุดยอดคัมภีร์เพื่อครอบครองทุกจักรวาล
แล้วเขาก็ได้พบกับเด็กสาวคนนั้นจริงๆ อเมริกา ชาเวซ (Xochitl Gomez/โซชิท์ล โกเมซ จากซีรีส์ ‘The Baby-Sitters Club’) ผู้ที่มีพลังมากแต่ยังควบคุมพลังตนไม่ได้ และผลพวงของสิ่งที่ด็อกเตอร์ได้ทำไว้ได้เปิดให้สิ่งเลวร้ายในจักรวาลอื่นเข้ามายังโลกใบนี้ เช่นเดียวกันกับที่เขาสามารถท่องไปในจักรวาลอื่น
หนทางแก้ไขเท่าที่คิดได้ก็คือการไปขอคำปรึกษาและความช่วยเหลือจากแม่มดซูเปอร์ฮีโร่อย่าง วันดา แม็กซิมอฟ (Elizabeth Olsen/เอลิซาเบธ โอลเซน จากซีรีส์ ‘WandaVision’, หนังเรื่อง ‘Wind River’ และ ‘Avengers: Age of Ultron’) เพื่อมาช่วยกันกอบกู้ความยุ่งเหยิงที่เขาดันไปเปิดมิติเอาไว้
ถ้า ‘Spider-Man : No Way Home’ (2021) และแอนิเมชันซีรีส์ ‘What If…?’ (2021) เปรียบเหมือนการซ้อมรับมือกับมัลติเวิร์ส ใน ‘Doctor Strange in the Multiverse of Madness’ ก็คือการลงสนามจริงแบบเต็มตัวล่ะครับ รีวิวหนังซีรี่ย์ แถมยังเป็นการมาแบบเล่นใหญ่กันตั้งแต่เปิดเรื่องกันเลย เดินเรื่องแบบสายลุยไม่ต้องคุยให้เสียเวลา รวมทั้งสไตล์การกำกับจากไรมีที่ทำให้การดำเนินเรื่องในภาคนี้มีรสชาติที่ค่อนข้างแตกต่างออกไปจากภาคแรกอยู่มากพอสมควร
ความแตกต่างที่ชัดเจนมาก ๆ ก็คือ การที่ Marvel Studios เองเริ่มจะเอานโยบายเดินเรื่องยาว ไม่เล่าปูมหลังย้อนความให้เสียเวลา ผลก็คือ ตัวหนังสามารถกระชับเรื่องราวและเล่าแบบเร็ว ๆ ได้เลย ด้วยเหตุนี้ ก็เลยทำให้หนังเรื่องนี้เดินเรื่องเร็วมาก แต่ข้อเสียก็คือ
หนังเรื่องนี้อาจไม่เหมาะกับคนที่ยังไม่ได้ทำการบ้านด้วยการดูเรื่องอื่น ๆ หรืออ่านคอมิกมาก่อน หรือแค่อยากลองชิมลางหนัง Marvel เฉย ๆ เพราะอาจมีเหวอจนตามไม่ทันว่า ตัวละครแต่ละตัวมีปูมหลัง เชื่อมโยงกันยังไง อะไรที่เราควรจะรู้สึกเซอร์ไพรส์
รวมทั้งการเอาแซม ไรมี ผู้กำกับที่พอจะมีลายเซ็นชัด ทั้งจังหวะสยองขวัญ มุกกวน ๆ มุมกล้อง การตัดต่อ การวางองค์ประกอบภาพแบบที่แฟนหนังคุ้นเคย นำเสนอด้วยกลิ่นอายหนังสยองขวัญคลาสสิกที่ได้อิทธิพลมาจากผลงานเก่า ๆ ของเขาเอง ทั้งไตรภาค ‘Evil Dead’, ‘Drag Me to Hell’ (2009)
บวกกลิ่นแฟนตาซีแบบ ‘Oz the Great and Powerful’ (2013) นิดหน่อย รีวิวหนังซีรี่ย์น่าดู ผสมความกวนแบบไตรภาค ‘Spider-Man’ ทำให้โทนโดยรวมมีความเป็นหนังสยองขวัญแบบแซม ไรมี ที่มีความฮา เพี้ยน ระห่ำ (และฉากสยอง) แบบชนเพดานเรต PG-13 มากกว่าจะเป็นหนัง Marvel คลีน ๆ ดูได้ทั้งครอบครัวในแบบที่เราคุ้นเคย
เบเนดิกต์ คัมเบอร์แบทช์ รับบท ดร.สตีเฟ่น สเตรนจ์
อลิซาเบธ โอลเซ่น รับบท วันด้า แมกซิมอฟ
ราเชล แม็กอดัมส์ รับบท ดร.คริสติน พลัมเมอร์
ไมเคิล สทูลเบิร์ก รับบท ดร.นิโคเดมัส เวสต์
เบเนดิกต์ หว่อง รับบท หว่อง
ชูวิเท็ล เอจีโอฟอร์ รับบท มอร์โด
Doctor Strange in the Multiverse of Madness พากย์ไทย แม้จะมีตัวละครมากมายพอตัวอยู่แล้ว รีวิวหนังน่าสนใจ แต่ภาคนี้ก็แนะนำตัวละครใหม่ให้เราได้รู้จัก เธอเป็นเด็กสาวอ่อนวัยนาม Xochitl Gomez ชื่อในเรื่องคือ อเมริกา ชาเวซ เด็กสาวที่มีพลังแต่ยังควบคุมมันไม่เป็น ผู้ถูกตามล่ามาจากจักรวาลอื่นที่ได้มาเจอกับหมอแปลกในจักรวาลนี้ แถมดูๆ ไปก็เหมือนเห็นหมอแปลกมีลูกสาวคนใหม่ เขาต้องตามไปช่วยเหลือในจักรวาลโน้นทีนี้ทีโดยไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย
แต่ก็ไม่ใช่แค่นั้นหรอกนะ สิ่งที่แฟนหนังซูเปอร์ฮีโร่มาร์เวลคาดเดาได้ก็คือตัวละครเซอร์ไพรส์ที่ถูกอุบเงียบไม่บอกใคร จะมาในหนังตอนไหนก็ไม่รู้ แต่เมื่อโผล่มาปุ๊บ พวกเขาจะเรียกเสียงฮือฮาจากผู้ชมได้ในทันที ทั้งตัวละครที่คิดถึง ตัวละครที่อึ้งไม่คิดว่าจะได้เจอ อะไรประมาณๆ นี้ แล้วพวกเขาเข้ามาสร้างบทบาทอะไรในเรื่องล่ะ? [บอกไม่ได้สิครับ]
อีกสิ่งที่ชื่นชอบใน ‘จอมเวทย์มหากาฬ ในมัลติเวิร์สมหาภัย’ ก็คงจะเป็นวิธีการเล่าเรื่องในสไตล์สยองขวัญแบบฉบับ Sam Raimi ที่ทำให้หนังพล็อตธรรมดา แต่ได้สไตล์การเล่า บวกดนตรีประกอบจาก Danny Elfman ที่ทำได้พอดี ด้วยรสมือของไรมี่ที่ผู้คนจดจำ มันจึงเป็นหนังที่มีฉากแอคชันสุดบันเทิง มีบางอย่างที่หนังมาร์เวลยังไม่เคยไปถึง และเพราะความช่ำชองทำให้เขาปรุงหนังอย่างมันมือ ส่งกลิ่นอายเฉพาะตัวออกมาได้โดนสุดๆ เลยล่ะ
ภาคนี้ หนังใส่ประเด็นหลายอย่างเข้าไป ไม่ว่าจะการไถ่ถามถึงความสุขของซูเปอร์ฮีโร่ การนำความรักในอดีตของด็อกเตอร์สเตรนจ์กลับมาอีกครั้ง หนังพาเขาไปพบกับคริสติน (Rachel McAdams จากหนังเรื่อง ‘Game Night’, ‘Midnight in Paris’ และ ‘The Vow’) คนที่น่าจะความสุขให้กับหมอได้ แต่ทว่า โชคชะตานำภารกิจมาให้และชักพาให้เธอหลุดลอย และก็ยังมีประเด็นนู้นนี่อีกนิดหน่อย โดยมีประโยคเด็ดคำคมที่ฟังแล้วต้องร้องอื้อฮือตาม
แล้วก็ตามเคย สำหรับหนังซูเปอร์ฮีโร่มาร์เวล พบหนังจบลง ก็มีหนึ่งฉากแถมหลังรายชื่อนักแสดง [ตรงนี้เขาจะเรียกว่า Mid-credit] ก่อนจะปล่อยให้เรากวาดสายตาหาชื่อคนไทยในเครดิตยาวๆ ไปจนหมดตัวอักษรสุดท้าย จึงได้พบกับอีกฉากแถม
ชื่อภาพยนตร์ Doctor Strange in the Multiverse of Madness / จอมเวทย์มหากาฬ ในมัลติเวิร์สมหาภัย
กำกับ Sam Raimi
เขียนบท Michael Waldron
แสดงนำ Benedict Cumberbatch, Elizabeth Olsen, Chiwetel Ejiofor, Xochitl Gomez, Rachel McAdams, Benedict Wong
แนว/ประเภท Action, Adventure , Fantasy, Horror, Sci-Fi
เรท PG-13, ไทย/น13+
ความยาว 126 นาที
ปี 2022
สัญชาติ สหรัฐอเมริกา
เข้าฉายในไทย 4 พฤษภาคม 2022
ผลิต/จัดจำหน่าย Marvel Studios, Walt Disney Studios Motion Pictures