รีวิวหนัง Fast and Feel Love
วันหยุดของผม ก็ต้องเปิด ดูหนังออนไลน์ ไปเจอหนึ่งในหนังที่เข้าสัปดาห์นี้คือหนังไทยเรื่อง ‘Fast and Feel Love’ หรือชื่อไทย ‘เร็วโหด..เหมือนโกรธเธอ’ ผลงานจากผู้กำกับที่มีลายเซ็นอันเป็นเอกลักษณ์อย่าง เต๋อ นวพล ธํารงรัตนฤทธิ์ คนที่คุณเคยดูหนังของเขามาแล้วไม่มากก็น้อย
ถ้าให้ให้พูดถึงผลงานของผู้กำกับคงจะไล่ได้ประมาณนี้ เดอะ มาสเตอร์‘, ‘ฟรีแลนซ์..ห้ามป่วย ห้ามพัก ห้ามรักหมอ’, ‘BNK48: Girls Don’t Cry’ , ‘Die Tomorrow’ และ ‘ฮาวทูทิ้ง.. ทิ้งอย่างไรไม่ให้เหลือเธอ’ มีทั้งหนังเล็กหนังใหญ่ หนังที่ทำเองและหนังที่ออกมาภายใต้ค่ายใหญ่ และครั้งนี้ เขาก็ทำงานใหม่ภายใต้ชื่อ GDH 559 อีกครั้ง กับเรื่องราวที่ร้อยเรียงและล้อเลียนกับ “ความเร็ว”
มาถึงครั้งนนี้ก็เป็นผลงานเรื่อที่ 8 กันแล้วสำหรับงานกำกับภาพยนตร์ขนาดยาวของ เต๋อ-นวพล ธำรงรัตนฤทธิ์ ผู้กำกับหน้าเดด ที่คร่ำหวอดอยู่ในวงการภาพยนตร์มาอย่างยาวนาน นวพลผ่านทั้งงานเขียนบทและกำกับมามากมาย ซึ่งรางวัลต่าง ๆ ที่นวพลได้รับมาก็สามารถการันตีเลยว่าหนังของเขาจะแตกต่างจากใคร ๆ อย่างแน่นอน
Fast and Feel Love เต็มเรื่อง จะพูดถึงเรื่องราวของคู่รักพระเอกและนางเอก เกา (ณัฏฐ์ กิจจริต จากซีรีส์ ‘แปลรักฉันด้วยใจเธอ’ ) และเจ (อุรัสยา เสปอร์บันด์ จากหนัง ‘น้อง.พี่.ที่รัก’ และ ‘นาคี 2’) คนแรกมุ่งหวังอยากจะเป็นเลิศในการแข่งขันเรียงแก้วเร็ว หรือที่เรียกว่า Sport Stacking แม้จะไม่มีใครมองเห็น ไม่มีคนสนใจ แต่คนที่เล็งเห็นและเป็นแรงผลักดันเรื่อยมาคือคนหลัง
เกาพยายามอย่างยิ่งยวดที่จะเป็นคนที่เร็วที่สุดในโลก ส่วนเจเป็นคนที่มีความฝันอันธรรมดาที่สุด แต่เธอมีความพิเศษคือ ‘ใจดี’ ส่งผลให้เจทำทุกอย่างเพื่อให้เกาได้ใช้เวลาไปกับการฝึกให้มากที่สุด และในที่สุด ทั้งสองคนเลือกที่จะอยู่ด้วยกัน
แต่ดูเหมือนสิ่งที่คิดไว้จะไม่ได้เป็นอย่างที่คิด ไม่นานพวกเขาก็เลิกรากัน ไม่เท่านั้น ยังมีเด็กใหม่จากอีกฟากโลกที่เก่งกล้าท้าลองดี ดรามาบังเกิดแล้วตอนนี้ แถมมันยังส่งผลต่อความเร็วของเขาอย่างมาก ทางออกพอมี แต่จะใช่ทางออกจริงๆ หรือไม่ สามารถตามไปลุ้นกันได้ที่ ดูหนังฟรี กันได้นะครับ
Fast and Feel Love สำหรับหนังเรื่องนี้ เหมือนหยิบเอา ตัวตนของความเป็นเต๋อ นวพล มาใส่เข้าไปในหนัง ทั้ง มุกตลก การตัดต่อภาพและอีกหลายอย่าง เหมือนหนังโฆษณาของแกนั่นแหละ แต่แค่มันยาว 2 ชั่วโมง 12 นาทีเท่านั้นเอง ครั้งนี้ มันเล่าเรื่องราวของความรักในอะไรที่คนส่วนใหญ่เขาเมินเฉย แต่เป็นสิ่งที่อายุไม่เกี่ยว เด็กหรือแก่เท่าไหร่ก็เล่นได้หมด ว่าแต่…มันจริงหรือ? ต้องไปดูกันใน รีวิวหนังไทย กันครับ
เริ่มต้นก็เหมือนจะพูดถึงครูแนะแนวที่ไม่ได้ช่วยแนะแนวอะไรเด็กเลย ตรงกันข้ามกลับยังดูถูก มองข้ามความฝันของพวกเขาเสียอีก แต่ก็นั่นแหละ มีเด็กบางคนเลือกจะไม่เชื่อครูและเดินก้าวตามความฝัน แม้ว่าสภาพแวดล้อมจะไม่ค่อยเอื้ออำนวย
แต่เพราะเขาได้แฟนดี เธอเป็นคนที่เข้ามาดูแลทุกอย่าง จนทำให้เพราะเอกนั้นมีเวลาได้ฝึกทักษะ Sport Stacking พร้อมกับความเชื่อที่ว่า “ถ้าเรารักอะไร มันจะพาเราไปที่ไหนซักที่” แค่เขาไม่รู้ว่า ก่อนจะไปถึง ‘ที่ไหน’ นั้น เขาต้องพบเจอกับอุปสรรคที่สำคัญนั่นคือ ‘ตัวเขาเอง’
พอจะมองเห็นว่า หนังคงต้องการนำเสนอตัวเอกให้เป็นคนเนิร์ดที่ชีวิตนี้ รู้อย่างเดียวคือ การเรียงแก้วให้ไว แต่กลับกลายเป็นว่า เขาทำอย่างอื่นในชีวิตไม่เป็นเลย คนแบบนี้ เอาจริง ไม่น่าจะอยู่รอดได้ในสังคม จนใครหลายคนที่มองเห็นอาจเลิกเชื่อในตัวหนังไปแล้วก็เป็นได้ แต่สำหรับคนที่มองว่าเต๋อน่าจะตั้งใจให้ตัวละครของเขามันออกมาแบบนี้ ดูผิดจากความเป็นจริงไปบ้าง เพื่อสร้างพล็อตในแบบที่ตัวเองต้องการจะเล่า ซึ่งเราก็ เออ เอาตามนั้นก็ได้
การที่เจผู้มีฝันแบบธรรมดา แต่งงานมีสามีมีลูก เป็นแม่บ้านแม่เรือน เธอต้องมาพร้อมด้วยบุคลิก ‘ใจดี’ เพิ่มเติมเข้ามาด้วย จึงกลายเป็นการเสียสละทุกสิ่งเพราะเชื่อในความฝันของอีกคน แต่หนังก็ไม่ลืมที่จะพูดถึงเรื่องแบบนั้น เรื่องที่ครุ่นคิดมาตลอด เพียงแค่มันไม่จริงจัง เพราะตั้งใจจะเล่นกับมุก และวิถีของหนังในแบบเต๋อนั่นแล จะเป็นแบบไหนต้องไปดูกันที่ รีวิวหนังไทยน่าดู
ณัฏฐ์ กิจจริต แสดงเป็น เกา
อุรัสยา เสปอร์บันด์ แสดงเป็น เจริตา (เจ)
อนุสรา กอสัมพันธ์ แสดงเป็น เมทัล
วิพาวีร์ พัทธ์ณศิริ แสดงเป็น ปอ
กนกวรรณ บุตรชาติ แสดงเป็น แม่ของเกา
คีตภัทร ป้องเรือ แสดงเป็น ไผ่หลิว
นอกจากหนังจะเล่าถึงเจ คนรักที่ยินดีมาอยู่ด้วยกันเพื่อให้เกาได้ทำตามฝันอย่างเต็มที่ ก็ยังมีปอ (วิพาวีร์ พัทธ์ณศิริ) คนที่คล้ายจะเป็นผู้จัดการส่วนตัวและคนดูแลสถาบันสอนการเล่น Sport Stacking แม่ของเกา (กนกวรรณ บุตรชาติ) ที่ปล่อยให้เกาได้ฝึกปรือฝีมือและเลือกจะเอาใจช่วยในแบบของตนเอง เมทัล (อนุสรา กอสัมพันธ์) แม่บ้านที่เก่งทุกอย่างเกี่ยวกับงานบ้าน
นอกเหนือจากนั้น เร็วโหด..เหมือนโกรธเธอ ก็ยังมีคนขับรถ คนสอนภาษา เด็กๆ ในอะคาเดมีของเกา โดยเฉพาะ ไผ่หลิว (คีตภัทร ป้องเรือ) ที่เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญพาเขาข้ามผ่านขีดจำกัดของตนเองได้ ความสำเร็จไม่ได้มีแค่เขาคนเดียวที่เป็นเจ้าของมัน ยังมีเพื่อนร่วมงาน ครอบครัว แฟน คนรอบข้าง รวมทั้งคู่แข่ง ทั้งหมดต่างมีส่วนเป็นแรงผลักดันให้เรามีวันสำเร็จทั้งนั้น จึงไม่ควรลืมเลือนพวกเขาไป
โดยเฉพาะเจ แฟนสาวที่เห็นดีเห็นงามกับความฝันที่ใครๆ มองว่าไร้ค่า แต่เธอกลับทุ่มเทเพื่อเขามาเป็นสิบปี มันเป็นเวลานานเกินไปด้วยซ้ำ จนไม่น่าจะมีใครยอมทำเพื่อความฝันของคนอื่นโดยทิ้งลืมความฝันความสุขของตนเองได้ขนาดนี้ มันเป็นความสัมพันธ์ที่ toxic ชวนรู้สึกอึดอัดแทน แม้หนังจะหันกลับมาเล่าในมุมของเจบ้าง แต่หนังก็ยืดไปยืดมาพร้อมกับเล่นมุกหน้าตาย จนเริ่มทำลายสิ่งที่ปูมา
อีกหนึ่งประเด็นที่หนังพยายามจะนำเสนอ ชีวิตของคนในอายุ30+ ที่ไม่ได้มีแต่การทำลายสถิติความเร็วในการเรียงแก้วอีกแล้ว หากมันมาพร้อมกับเรื่องจิปาถะที่ต้องจัดการ แถมอายุที่มากขึ้น ก็จำเป็นคิดเรื่องอื่นมากขึ้น ความฝันที่เคยมีความสำคัญอาจต้องถดถอยลง ก็…เป็นไปตามวัยอะนะ สามารถไปดูเพิ่มได้ที่ รีวิวหนังน่าสนใจ
แต่กับหนังเรื่องนี้ เขาพาเราไปสนุกกับมุกล้อเลียนหนังดังหลายๆ เรื่อง ซึ่งก็อยู่กับประสบการณ์และความทรงจำแต่ละคนว่ามากน้อยแค่ไหน ช็อตไหนเก็ทก็จะมีเสียงฮือฮาชอบใจกัน ที่น่าสนใจก็คือ ลีลาการเล่าในแบบหนังระทึกขวัญ บวกกับดนตรีประกอบที่ชวนระทึกใจเสียเหลือเกิน ทำให้หนังพาไปต่อได้เรื่อยๆ
ชื่อภาพยนตร์ Fast and Feel Love / เร็วโหด..เหมือนโกรธเธอ
กำกับ นวพล ธํารงรัตนฤทธิ์
เขียนบท นวพล ธํารงรัตนฤทธิ์
แสดงนำ ณัฏฐ์ กิจจริต, อุรัสยา เสปอร์บันด์, อนุสรา กอสัมพันธ์, วิพาวีร์ พัทธ์ณศิริ, กนกวรรณ บุตรชาติ, คีตภัทร ป้องเรือ
แนว/ประเภท Action, Drama
เรท ทั่วไป
ความยาว 132 นาที
ปี 2022
สัญชาติ ไทย
เข้าฉายในไทย 6 เมษายน 2022
ผลิต/จัดจำหน่าย GDH 559, Happy Ending Film, Very Sad Pictures