Last modified กันยายน 27th, 2022 at 05:42 pm
รีวิวซีรีย์The Lord of the Rings
สวัสดีครับท่านผู้ชม กลับมาพบกันอีกแล้ว กับผมและการรีวิวหนังสุดมัน วันนี้ผมจะมาแนะนำซีรีส์ ‘The Lord of the Rings: The Rings of Power’ ถูกหมายมั่นว่าจะเป็นจอมทัพเรือธงแฟนตาซีของฝั่ง Amazon Prime Video ที่ดูตั้งใจเอามาชนกับซีรีส์แฟนตาซีธีมยุคกลางซึ่งดัดแปลงจากหนังสือและมีกำหนดฉายในปีนี้เช่นเดียวกันของแพลตฟอร์มอื่น อย่าง ‘House of the Dragon’ ของ HBO Go แต่ก็สามารคไปหาชมได้ใน ดูหนังออนไลน์ ได้เช่นกัน
ดูจากชื่อชั้นแต่ละเรื่องก็พอฟัดพอเหวี่ยงกันดีทีเดียว ต่างมีจุดแข็งจุดอ่อนที่ก็อาจเป็นอันดับ 1 ในทางของตนเองได้ทั้งสิ้น แต่ถ้าวัดจาก 2 ตอนแรกของ ‘The Rings of Power’ ที่ปล่อยออกมาตั้งต้นก่อนจะทยอยฉายสัปดาห์ละตอนหลังจากนี้ ก็ต้องบอกว่าในแง่หนึ่งเรื่องนี้คงไม่ถูกใจบางคนนัก แต่ขณะเดียวกันก็จะได้ใจคนอีกกลุ่มใหญ่ไปไม่น้อยเช่นกัน
มันคือเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อนาน นับย้อนไปหลายพันปีก่อนเหตุการณ์ใน เดอะ ฮอบบิท และ เดอะลอร์ดออฟเดอะริงส์ เป็นห้วงเวลาที่จอมมารพ่ายแพ้และหายสาปสูญ เหล่าเอลฟ์ มนุษย์และเผ่าพันธุ์อื่นต่างมองไปข้างหน้าเพื่อสร้างยุคที่รุ่งเรืองอีกครั้ง ทว่าความชั่วทั้งเก่าก่อนและเกิดใหม่ยังเร้นกายรอการหวนคืน นี่คือช่วงเวลาสำคัญในการก่อกำเนิดแหวนครองภิภพที่เราคุ้นเคย
เรียกได้ว่าเป็นช่วงที่พลังอำนาจอันยิ่งใหญ่ได้กำเนิดขึ้นมา หลากอาณาจักรที่ผ่านทั้งรุ่งเรืองและตกต่ำ บททดสอบของฮีโร่ที่ไม่เคยถูกเล่าขาน จอมมารผู้ยิ่งใหญ่ที่หวนคืน ความมืดมนอนธการที่เข้าปกคลุม ซีรีส์ที่จะพาทุกคนไปพบกับตัวละครใหม่ๆ และอีกหลายชื่อที่คุ้นเคย จะมีใครบ้างไปรับชมกันได้ใน ดูหนังฟรี กันได้เลยนะครับ
หลังจากเสร็จสิ้นการทำสงครามครั้งใหญ่ได้จบลง เหล่าบบรดาผู้คนก็คิดว่าพลังชั่วร้ายแห่งจอมมารได้หมดสิ้นไปแล้ว ทว่ายังมีคนที่คิดเห็นแตกต่าง กาลาเดรียล (Morfydd Clark) เอลฟ์ผู้เชื่อว่าตนผูกพันอยู่กับภารกิจค้นหาเศษซากของจอมมารที่หลงเหลืออยู่ในดินแดนอันห่างไกล หลังฟินร็อดพี่ชายของนางสละชีพไล่ล่าเซารอน ยามนี้จึงถือเป็นการรับช่วงต่อภารกิจ นางไม่เคยหยุดยั้งค้นหาแม้ไร้คนเห็นด้วย ขณะที่แผ่นดินมิดเดิลเอิร์ธกำลังเผชิญกับเหตุประหลาด หลายสิ่งหลายอย่างบังเกิดขึ้นพร้อมๆ กัน
มอร์ฟีดด์ คลาร์ก รับบทเป็น กาลาเดรียล นักรบเอลฟ์ที่เชื่อว่าความชั่วร้ายกำลังหวนคืนสู่มิดเดิลเอิร์ธ ,Lenny Henry พากย์เป็น Sadoc Burrows ผู้เฒ่าHarfoot
Sara Zwangobani รับบทเป็น Marigold Brandyfoot a Harfoot ,ดีแลน สมิธ รับบทเป็น ลาร์โก บรั่นดีฟุต สามีของฮาร์ฟุตและดาวเรือง
Markella Kavenagh รับบทเป็น Elanor “Nori” Brandyfoot Harfoot ,Megan Richards รับบทเป็น Poppy Proudfellow Harfoot ผู้อยากรู้อยากเห็น
Robert Aramayo พากย์เป็น Elrond สถาปนิกและนักการเมืองครึ่งเอลฟ์ ,เบนจามิน วอล์คเกอร์ พากย์เป็น กิล-กาลาด
Ismael Cruz Córdova พากย์เป็น Arondir เอลฟ์ Silvan ,Nazanin Boniadi พากย์เป็น Bronwyn: มารดาที่เป็นมนุษย์และหมอซึ่งเป็นเจ้าของเภสัชกรในดินแดนทางใต้
Tyroe Muhafidin พากย์เป็น Theo ลูกชายของ Bronwyn ,ชาร์ลส์ เอ็ดเวิร์ดส์รับบทเป็น เซเลบ ริมบอร์ ช่างเหล็กเอลฟ์ผู้หลอมวงแหวนแห่งอำนาจ
Daniel Weymanเป็นคนแปลกหน้าที่ตกลงมาจากท้องฟ้าในดาวตกเพลิง ,Owain Arthurพากย์เป็น Durin IV: เจ้าชายแห่งเมืองKhazad-dûmคนแคระ
ด้วยความที่สตูดิโอไม่ได้ลิขสิทธิ์มาทั้งหมด แต่ได้มาเป็นบางเล่มที่มีเนื้อหาในภาคผนวกเพียงไม่กี่หน้า ทำงานให้ต้องแต่งเรื่องขึ้นใหม่เพื่อสร้างเป็นซีรีส์ยาวหลายตอน ซึ่งนั่นก็เป็นเหตุให้ ‘แหวนแห่งอำนาจ’ อาจมีเนื้อหาบางอย่างที่ไม่ตรงกับที่แฟนหนังสือของ J.R.R. Tolkien ล่วงรู้มา เพราะฉะนั้น รีวิวหนังซีรี่ย์ ก็คงไม่ต้องแปลกใจอะไรหากจะมีคนก่นด่าซีรีส์เรื่องนี้อย่างหนาหู
การเล่าเรื่องในช่วงแรกนั้งจะทำแบบกระชับไปจนถึงช่วงที่เหล่าเอลฟ์ยังอาศัยอยู่ภายใต้แสงแรกของต้นทวีปพฤกษา หลังจากมอร์กอธทำลายต้นไม้ เหล่าเอลฟ์จึงติดตามไปแก้แค้นยังมิดเดิลเอิร์ธ ทั้งยังเล่าถึงสงครามในยุคที่หนึ่งที่กินเวลาราวห้าร้อยปี แม้มอร์กอธพ่ายแพ้ แต่ก็ยังมีเซารอนที่หวังยึดครองมิดเดิลเอิร์ธจึงซุ่มซ่อนกำลังอยู่ และก็มีเอลฟ์บางคนอย่างกาลาเดรียลที่ยังคงติดตามร่องรอยของมัน
สำหรับคนที่ไม่ได้ติดตามอ่านนิยายอย่างใกล้ชิดก็อาจจะไม่ได้รู้สึกขัดหรือตะขิดตะขวงใจสักเท่าไหร่ในเรื่องความตรงหรือไม่ตรงของเนื้อหา แต่คงจะพอรู้สึกได้ว่า เรื่องราวที่ซีรีส์เรื่องนี้ดำเนินอยู่นั้น มันดูเชื่องช้าเกินไปหน่อย อาจรู้สึกได้ว่าทีมสร้างค่อนข้างใช้เวลาปูเรื่องนานเกินไป สามตอนแรกของซีรีส์แทบไม่มีคอนฟลิกต์ใดเกิดขึ้น เหมือนเป็นการเล่าปูพื้นไปเรื่อยๆ ให้คนดูได้รู้จักกับอาณาจักรต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น เอลฟ์ ออร์ค ฮอบบิท คนแคระ และมนุษย์ ก่อนที่จะเริ่มได้ยินมารร้ายตัวใหม่ อะดาร์ ผู้นำของเหล่าออร์ค
จนกว่าจะถึงตอนที่ กาลาเดรียลจะร่วมเดินทางกับมนุษย์อย่างฮัลบรันด์ (Charlie Vickers) มาถึงนูเมนอร์ก็ผ่านมาถึงตอนที่ 4-5 แล้ว รีวิวหนังซีรี่ย์น่าดู แถมยังก็ดูโอ้เอ้ไม่ค่อยไปถึงไหน แถมซีรีส์ยังดำเนินเรื่องด้วยบทพูดกันเสียส่วนมาก คนดูที่คาดหวังจะได้เห็นฉากแอ็กชันก็ต้องอดทนรอกันพอดู แถมยังสลับด้วยการเดินทางของเหล่าฮอบบิทที่แทบไม่มีอะไรมากไปกว่า ปริศนาของยักษ์ลึกลับผู้นั้นที่ยังไม่ถูกเปิดเผยเสียทีนั่นเอง
สิ่งที่คนดูอย่างเราจะเห็นเด่นชัดจากซีรีส์เรื่องนี้ก็คือ งานออกแบบฉากที่อลังการงานสร้างมากๆ สมกับทุนสร้างที่มหาศาลอยู่ ไม่ว่าาจะเป็นสถาปัตยกรรมอันยิ่งใหญ่ของเกาะนูเมนอร์ อาณาจักรที่ค่อนข้างรุ่งเรืองแถมยังร่ำรวยด้วยเทคโนโลยี ไล่ไปถึงทวีปพฤกษาแห่งวาลินอร์ ดินแดนอันเขียวขจีที่เหล่าฮาร์ฟุตอยู่อาศัย ลินดอร์น อาณาจักรของเหล่าเอลฟ์ที่มีต้นไม้สีทองอร่ามตา
รวมไปถึงรูปปั้นที่สร้างขึ้นเพื่อบุคคลที่เป็นตำนานได้จากไปทั้งหลาย รีวิวหนังซีรี่ย์น่าสนใจ อาณาจักรเอลฟ์อีกแห่งอย่างเอเรกิออน อาณาจักรคาซัดดูมหรือมอเรียของเหล่าคนแคระ (ที่เรียกว่าได้ว่าอลังการสวยงามเสียจนนึกว่าเมืองเอลฟ์ซะด้วยซ้ำ) ทั้งหมดแทรกไว้ด้วยภาพของแผนที่ ทุกอย่างดูละเอียดลออ มองเห็นถึงความตั้งใจจะทำมาเพื่อกำนัลแด่แฟนของโทลคีนโดยเฉพาะ
ฟังดูเหมือนจะไม่มีมนุษย์ แต่เรื่องนี้ก็เล่าถึง เพราะมนุษย์เป็นเผ่าพันธุ์ที่สำคัญสำหรับเรื่องราว พวกเขาเคยเข้าร่วมกับมอร์กอธมาก่อน จะไม่มีกล่าวถึงได้ยังไง เซาธ์แลนด์คือดินแดนของพวกเขา แค่อาจจะดูโทรมๆ หน่อยเท่านั้นเอง
ถ้าเราดู The Lord of the Rings เวอร์ชัน ปีเตอร์ แจ็นสัน ซึ่งสร้างมาจากหนังสือนิยายของโทลคีนโดยตรง ก็อาจไม่พบว่าคนบางเผ่าพันธุ์สีผิวสีอื่นปะปน แต่ในซีรีส์เรื่องนี้ ไม่ว่าจะเป็น คนแคระ เอลฟ์ มนุษย์ หรือฮอบบิท ล้วนแล้วแต่มีสมาชิกบางส่วนเป็นคนผิวดำหรือผิวสีปะปนอยู่
จุดที่แฟนนิยายของโทลคีนรู้สึกไม่พอใจและมองว่าแตกต่างจากสิ่งที่เคยถูกบอกเล่าในนิยายมาเกินไป ก็เห็นจะเห็นคาแรกเตอร์ของเหล่าเอลฟ์ เผ่าพันธุ์ที่มีอายุยืนยาวและไม่เคยแก่ แต่ในเรื่องก็จะพบว่า เคเลบริมบอร์ กลับใช้คนมีอายุมาแสดง
รวมไปถึงความสัมพันธ์ของกาลาเดรียลกับเอลรอนด์ ที่ดูเหมือนคู่จิ้นกัน นอกเหนือจากนี้ ก็ยังมีเรื่องคาแรกเตอร์ของกาลาเดรียลที่ค่อนข้างหุนหันเมื่อเทียบกับอายุ อะไรแบบนี้เป็นต้น จึงไม่น่าแปลกอะไรหากพวกเขาจะก่นด่าซีรีส์ ‘แหวนแห่งอำนาจ’ มากอยู่สักหน่อย
สำหรับตัวผมเองแล้ว ไม่ได้เป็นแฟนนิยายอย่างจริงจังและไม่ได้มีปัญหากับการเลือกคนผิวมาเล่น แต่ความรู้สึกในระหว่างรับชมซีรีส์ความยาว 8 ตอนเรื่องนี้ คือ ใช้เวลาปูเรื่องนาน แม้เข้าใจว่าต้องเล่าสลับหลายอาณาจักร แต่บางไทม์ไลน์ก็ดู ‘มีอะไร’ ให้เล่าน้อยเกินไปอยู่ดี ขณะที่เดินเรื่องก็ใช้บทสนทนาที่เยอะเกิน ทำให้ฉากแอ็กชันน้อยไม่พอ ยังมีคอนฟลิกต์ในระหว่างการเล่าน้อย ทำให้ความสนุกในการรับชมค่อนข้างฝืดเคือง
ชื่อซีรีส์ The Lord of the Rings: The Rings of Power / เดอะลอร์ดออฟเดอะริงส์: แหวนแห่งอำนาจ
ผู้สร้าง Patrick McKay, John D. Payne
นักแสดง Morfydd Clark, Markella Kavenagh, Robert Aramayo, Ismael Cruz Cordova, Nazanin Boniadi
แนว/ประเภท Action, Adventure, Drama, Fantasy
จำนวนตอน ซีซัน 1: 8 ตอน
ช่องทางรับชม Amazon Prime Video
เริ่มออกอากาศ 2 กันยายน 2022
ผู้ผลิต/เจ้าของลิขสิทธิ์ Amazon Studios, Harper Collins Publishers, New Line Cinema